วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กาแฟเวียดนาม

             
             กาแฟถูกนำเข้าเวียดนามโดย ชาวอาณานิคมฝรั่งเศส ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และการเพาะปลูกกาแฟในเวียดนามก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นในพื้นที่ราบสูงส่วนกลาง จนทำให้เวียดนามกลายเป็นผู้ผลิตกาแฟใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยในปีพ.ศ. 2547 เวียดนามผลิตกาแฟโรบัสต้าได้ถึง 750 ตัน นอกจากนี้เวียดนานยังมีวิธีการเพาะปลูก,วิธีการคั่วกาแฟและชงที่เป็นเอกลักษณ์มามากกว่า 200 ปี โดยผมจะขอกล่าวถึงวิธีการชงกาแฟของเวียนนามที่สืบทอดกันมาซึ่งเป็นวิธีการชงแบบหยด ( Drip )
หม้กรองกาแฟเวียดนาม
Vietnamese coffee filter
โดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่าหม้อกรองกาแฟเวียดนาม (Vietnamese coffee  filter)    มีลักษณะเป็นเป็นหม้อกรองกาแฟขนาดเล็ก ดูเหมือนกับหมวกและตั้งอยู่บนด้านบนของถ้วยกาแฟ ภายในจะไว้สำหรับบรรจุกาแฟคั่วบดหยาบปานกลางและน้ำร้อนจึงเป็นวิธีการชงที่เรียบง่ายและคลาสสิกมาก ที่สำคัญให้อารมณ์ในการดื่มอย่างมากมาย
ส่วนประกอบของหม้อกรอง


หม้อกรองกาแฟเวียดนามปกติจะประกอบด้วยชิ้นสวน 3 ส่วนด้วยกันคือหม้อกรอง แผ่นกรองอะลูมิเนียม
สำหรับกดกาแฟคั่วบด และฝาปิด 
ตามรูปด้านซ้ายมือ





สำหรับวิธีการชงก็ไม่ยากครับ

ขั้นตอนที่ 1:
ใส่นมข้นหวานลงในแก้ว หรือจะใช้น้ำตาลก็ได้ครับ
Add milk
ขั้นตอนที่ 2 :
เปิดฝาหม้อกรองกาแฟ แล้วดึงแผ่นกรองอะลูมิเนียมออกมาครับ
Filter
ขั้นตอนที่ 3 :
นำกาแฟสดใส่ลงไปในหม้อกรอง ความอ่อนหรือเข้มของกาแฟ อยู่ตรงที่ปริมาณกาแฟสดที่เราใส่ลง ไปครับ
Add Coffee
ขั้นตอนที่ 4 :
ใส่แผ่นกรองอะลูมิเนียม ลงไปในถ้วยชงกาแฟ แล้วกดลงไปเบา ๆ หลังจากนั้นจึงนำขึ้นวางลง บนแก้วกาแฟ
ขั้นตอนที่ 5 :
ค่อย ๆ รินน้ำร้อนลงไปถ้าต้องการรสชาติเข้มข้น ก็ใช้ปริมาณน้ำน้อยแค่ครึ่งแก้วครับ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณเนื้อกาแฟคั่วที่ใส่ลงไปด้วยครับ ส่วนข้างล่างเป็นน้ำขมหวาน ใครไม่ชอบนมข้นหวาน จะเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลก็ได้ครับ
Pouring
ขั้นตอนที่ 6 :
ปิดฝาหม้อกรองกาแฟ เพื่อเก็บกลิ่นเอาไว้ จากนั้นน้ำร้อนจากด้านบนจะค่อย ๆ ไหลผ่านกาแฟคั่วบดแล้วหยดลงไปในแก้วกาแฟข้างล่าง เกือบได้ ชิมแล้วครับ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ได้อารมณ์เป็นอย่างยิ่ง
Working
ขั้นตอนสุดท้าย :
เมื่อน้ำร้อนในถ้วยชงด้านบนหยดลงแก้วด้านข้างจนหมด ค่อย ๆ ยกชุดชงด้านบนออก ง่าย ๆ เพียงแค่นี้ ก็ได้กาแฟเวียดนามที่หอมกรุ่นมาชิมแล้วครับ รสชาตินุ่มอย่าบอกใครเชียว...
Finished

           ที่ผมเขียนเรื่องกาแฟเวียดนามก็เพราะว่าไปเจอร้านขายกาแฟชงแบบเวียดนามโดยใช้กาแฟดอยหลวงเลยแวบเข้าไปชิมก็ติดใจตามระเบียบเลยขอซื้อหม้อกรองพี่แกมา 1 ชุด ค่าเสียหาย 200 บาท แล้วมาลองชงดูก็ให้อารมณ์ไปอีกแบบครับ วันหลังจะเขียนร้านนี้ให้ฟังครับเป็นร้านที่นารักมาก คนเยอะเลยมีเวลาคุยกับเจ้าของตอนรอกาแฟ นานเลย

วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ภูปาย อาร์ต รีสอร์ท ( Phu Pai Art Resort )


เมื่อวันที่ 5-6 ธันวาที่ผ่านมาได้มีโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยว อ.ปาย ต้องบอกว่าทริปนี้ประทับในที่พักมากที่สุดเนื่องจาก ไปช่วงวันหยุดยาว ก็เลยได้ไปเห็นปายแตกของจริง แถมอากาศช่วงกลางวันก็ร้อนพอสมควร เด็กๆเลยลงว่ายน้ำในสระไม่ยอมขึ้นเลย แต่พอตอนเช้าอากาศเย็นๆมีหมอกหนา ค่อยรู้สึกว่าเหมือนมาปายแล้ว ผมเลยจะขอเล่าหรือ mini review รีสอร์ทที่ไปพักที่ต้องบอกว่าประทับใจในอัธยาศัยของน้องที่คอยบริการ บรรยากาศของรีสอร์ทที่เหมือนอยู่ในชนบทกลางนาข้าวมาก ถ้าเราดูจากแผนที่จะเห็นว่ารีสอร์ทอยู่ติดน้ำปาย ผมไม่ได้เดินสำรวจว่าเห็นน้ำปายหรือไม่แต่ได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่ เนื่องจากประทับใจบรรยากาศของรีสอร์ทมากกว่า ทางไปรีสอร์ทจะออกไปทางแม่ฮ่องสอน อยู่นอกเมือง เลยค่ายทหารไปเล็กน้อย ห่างจากถนนคนเดินประมาณไม่เกิน 10 นาที(รวมรถติดที่ปายแล้ว )


ทางเข้ารีสอร์ทจะต้องผ่านหมู่บ้านเข้าไป ตัวรีสอร์ทจะอยู่ท้ายหมู่บ้าน ติดกับทุ่งนา




counter check in ครับ เดิมน่าจะเป็นยุ้งฉางที่เก็บข้าว


 Lobby นั่งรอระหว่าง check in จะเหมือนบ้านในหมู่บ้านที่ยังคงวัฒนธรรมในชนบทไว้เกือบทั้งหมด





ดูรูปห้องพักกันดีกว่าครับ
 
ห้องพักเป็นหลังๆได้บรรยากาศชนบทมาก



มุมสวยๆ


ห้องพักยามเช้ากลางสายหมอก

ภายในห้องพักกว้าง และสวยมาก
ประตูห้องแบบโบราณ

เก้าอี้นั่งชมหมอก


หรือจะชอบนั่งแบบชานบ้าน

เตียงมีทั้งเดี่ยวและคู่

อ่างล้างหน้าออกแบบได้เข้ากับบรรยากาศ



ห้องน้ำใหญ่มากครับ แบ่งเเป็นสัดส่วนน่านอนมักๆ
โต๊ะแต่งตัว
มาดูส่วนของห้องอาหารและสระว่ายน้ำกันบ้างครับ แบบไม่มีคำบรรยายครับ











           โดยร่วมแล้วผมประทับใจรีสอร์ทนี้มากทั้งบรรยากาศยามเช้า การจัดรีสอร์ทแบบหมู่บ้านทางภาคเหนือ ห้องพักที่สะอาดดูใหม่ อาหารเช้าแม้จะธรรมดาแต่ก็ถือว่ารสชาติใช้ได้ ใช้วัตถุดิบอย่างดี ถ้าช่วงบ่ายอากาศร้อนก็มีสระว่ายน้ำให้เลยด้วยนะครับ พนักงานอัทธยาศัยดีมาก ยิ้มและทักทายกันตลอดเวลาเลยครับ
           สำหรับทริปนี้ผมจ่ายที่ 2,000 บาทต่อห้อง ผ่านทาง agoda นะครับ ถือว่าคุ้มมากครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.phupairesort.com/
http://www.agoda.co.th/

วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Espresso by Moka pot

วันนี้จะเล่าเรื่องการชงกาแฟโดยใช้ Moka pot ให้ฟังนะครับ ก่อนอื่นเรามาดูส่วนต่าง ๆ ของ Moka pot กันก่อนนะครับ
จากรูป Moka pot จะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ

ส่วน  A  เป็น เป็นส่วนหม้อต้มบรรจุน้ำที่จะใช้ต้มกาแฟ
ส่วน  B  เป็น กรวยสำหรับบรรจุกาแฟคั่วบด
ส่วน C  เป็น กาที่จะรับน้ำกาแฟมีฟิลเตอร์ และประเก็น

ส่วนประกอบต่าง ๆ ของ Moka pot
 
ขั้นตอนการชง
  1. เติมน้ำสะอาดลงในหม้อต้ม(A)ไม่ให้เกินเซฟตี้วาล์ว
  2. วางกรวยลงบนหม้อต้ม ตักกาแฟคั่วบดหยาบใส่ในกรวยประมาณ 2 ช้อนอัดให้แน่นพอสมควร
3. ปิดกาต้มให้แน่น ดูประเก็นให้เรียบร้อยแล้ว ตั้งบนเตาต้มเลยครับ ประมาณ 3-4 นาทีจะมีน้ำกาแฟหอมกรุ่นออกมาจากกาครับ



สุดท้ายผมมีลิงค์การชงกาแฟด้วย Moka pot ให้ดูครับ

 สุดท้ายนี้ขอตัวไปต้มกาแฟมากินสักแก้วดีกว่า ไปหล่ะครับ